1.ต้องเริ่มจาก "ห้องแถว"หมายถึงอาคารที่ก่อสร้างต่อเนื่องกันเป็นแถวตั้งแต่สองคูหาขึ้นไปมีผนังแบ่งอาคารเป็นคูหา แต่ส่วนใหญ่จะสร้างจากวัสดุไม่ทนไฟ เช่นไม้ซึ่งก็เหลือน้อยแล้ว ส่วน"ตึกแถว"จะต่างกับห้องแถวก็ตรงที่ว่า จะสร้างด้วยวัสดุทนไฟเป็นส่วนใหญ่ ส่วนวัสดุทนไฟคืออะไร? ก็คือวัสดุก่อสร้างที่ไม่เป็นเชื้อเพลิงนั้นเอง ส่วน"บ้านแถว"หรือทาวน์เฮ้าส์นั้นก็เป็นตึกแถวที่ใช้อยู่อาศัยซึ่งต้องมีที่ว่างด้านหน้าและด้านหลังระหว่างรั้วหรือแนวเขตที่ดินกับตัวอาคารแต่ละคูหาและต้องสูงไม่เกิน 3 ชั้น ส่วนเรื่องพื้นที่ที่ต่างกันนั้น ก็เป็นไปตามการใช้งาน กิจกรรมการใช้สอยของอาคาร พาณิชย์กับพักอาศัย ย่อมแตกต่างกันและส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องของการถ่ายเทของอากาศภายในอาคาร ให้ปลอดโปร่งถ่ายเทได้สะดวก ส่วนที่กำหนดให้มีประตูเข้าออกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เมื่อเกิดอัคคีภัยจะได้มีทางหนีไฟได้สะดวก ส่วนบ้านแถวทำไมต้องมีที่ว่างด้านหน้าและด้านหลังเหตุผลก็เพื่อ พื้นที่ว่างนี้จะมีผลต่อการถ่ายเทอากาศ ทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่อึดอัด และยังใช้ประโยชน์อื่นๆได้อีก เช่นใช้เป็นพื้นที่ปลูกต้นไม้เพิ่มความสดชื่นและเติมออกซิเจนให้กับโลก

2.ตามกฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ก็จริง แต่ในการออกแบบและปฎิบัติที่ด้านหลังห่าง2.00เมตร ก็มีประตูหรือหน้าต่างช่องแสงได้ และมีไว้เพื่อประโยชน์ในกรณีที่เกิดอัคคีภัย จะได้มีทางหนีไฟเพิ่มครับ

3-4.ความลึกก็วัดจากผนังด้านหน้าบ้านที่ชั้นล่าง วัดออกไปให้ได้ 4.00 เมตรเป็นอย่างน้อยครับ span รวมจะต้องไม่เกิน 24.00 เมตร ตำแหน่งการรับน้ำหนักของเสาเป็นไปตามวิธีการออกแบบครับ แล้วถ้าถามว่า ทำไม? ต้องไม่ให้เกิน 24.00เมตร เคยเห็นตู้ปลามั่ย?ครับ ก็เพราะว่าตัวอาคารจะอับทึบมืดเหมือนถ้ำ อากากาศจะถ่ายเทไม่สะดวก ที่สำคัญคือช่วยในการประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้อีกทาง แท้ที่จริงแล้วเจตนารมย์ของกฎหมายควบคุมอาคารนั้นคืออะไร? เจตนารมย์ของกฎหมายควบคุมอาคารโดยรวม ที่ต้องมีกฎเกณฑ์ต่างๆมากมายนั้น ก็เพื่อความปลอดภัยของเจ้าของอาคารและผู้ใช้อาคารนั้นเอง ครับ